การยืดวอลลุ่มทำให้ผมต่างจากยืดผมด้วยวิธีอื่นอย่างไร

หนึ่งในปัญหาที่คุณผู้หญิงหลายๆคนหนักใจก็คือการมีผมหยักศก ผมหยิกและผมชี้ฟูไม่เป็นทรง จนคิดอยากจะไปยืดผมให้ตรงสลวยสวยเก๋เหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่เพราะเห็นข่าวผมพังเพราะร้านเสริมสวยมาเยอะ ก็เลยไม่กล้าลุกไปเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที การยืดวอลลุ่มนั้น คือการเพิ่มวอลลุ่มให้กับทรงผม โดยใช้เทคนิคยืดโคนดัดปลายทำให้ทรงผมดูไม่ลีบแบน หรือตรงทื้อจนเกินไป และไม่หยิกหยอยเหมือนลอนดัด จะดูเหมือนการไดร์วอลลุ่มหรือไดร์ม้วน ไดร์ฟาร่า ก็แล้วแต่สาวๆจะเรียกกัน ทรงผมจะพองๆ งุ้มๆ ถ้าเน้นลอนเยอะ ก็ซอยผมให้มีเลเยอร์หน่อยก็จะได้ทรงผมที่มีชั้น ดูหนาขึ้น พองขึ้น มองดูเป็นธรรมชาติ และการยืดวอลลุ่มลูกค้าสามารถกลับไปสระเซ็ทเองได้ที่บ้าน

วิธียืดผมทั้งหมด 4 แบบ ว่าแต่ละแบบคืออะไร และแบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด

1.ยืดผมแบบธรรมดา เป็นการยืดแบบใช้น้ำยาและแผ่นยืดทั่วไป ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับสาวงบน้อย วิธีนี้จะช่วยทำให้ผมตรงอย่างเดียว ผลลัพธ์หลังการยืดจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาที่ใช้กับฝีมือของช่าง หากไม่ทำทรีตเมนท์ตามก็เสี่ยงปัญหาผมเสีย ผมหัก เพราฉะนั้นควรถามช่างว่าหลังจากการยืดแล้ว ควรรอกี่วันถึงจะทำทรีตเมนท์ได้

2.ยืดผมแบบรีบอนดิ้ง เป็นวิธีที่ใช้น้ำยาทั่วไปเหมือนกับการยืดแบบธรรมดา แต่ใช้เครื่องหนีบผมแทนแผ่นยืด ทำให้สามารถจัดทรงได้ตามที่ต้องการ ไม่ออกมาตรงชี้หรือลีบแบน แต่ข้อเสียคือ ผมอาจแห้งเสียง่ายเพราะเป็นการนำความร้อนสัมผัสกับผมโดยตรง ควรทำทรีตเมนท์บำรุงหลังยืดผมเช่นกัน

3.ยืดผมแบบเคราติน เคราติน คือ ส่วนประกอบหลักสำคัญของเส้นผม ที่ถูกทำลายด้วยสารเคมี ความร้อน ทำให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู หยาบ กระด้าง วิธีนี้จึงใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของเคราติน เพื่อเคลือบเส้นผมไม่ให้โดนทำร้ายได้อีก เรียกว่าเหมาะกับสาวๆที่กำลังมีปัญหาเรื่องผมเสียแบบเกินจะเยียวยา และอยากให้ผมกลับมาดูสุขภาพดี พริ้วสวยเป็นเป็นธรรมดา แต่พอทำแล้วผมจะยากต่อการดัดให้อยู่ทรง

4.ยืดวอลลุ่ม ใช้เทคนิคการยืดผมแบบยกโคนเน้นดัดปลายผมให้งุ้มสวย เหมาะกับสาวที่มีผมเส้นเล็ก หยิก หยักศก และมีน้ำหนักเกินไปจนดูลีบแบน ถ้าอยากมีทรงผมที่พองเป็นธรรมชาติสไตล์สาวเกาหลี แบบไม่ต้องเสียเวลาหนีบจัดทรงเองทุกวัน วิธีนี้แหละเริศที่สุด แถมยังช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติ น่ามองขึ้นด้วย